ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

นายจี๊ด พุ่มพวง คนปลายคลองกระทุ่มแบน

            หนังสือเล่มนี้ได้รับความอนุเคราะห์จากพี่ธนะ บุญศิริ มอบให้เพื่อนำมาเผยแพร่เป็นข้อมูลเกี่ยวกับกระทุ่มแบน ซึ่งผมขอถือโอกาสนี้คัดลอกในส่วนประวัติผู้วายชนม์มาให้ได้อ่านกันครับ

            นายจี๊ด พุ่มพวง เกิดเมื่อวันเสาร์ ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 3 ปีมะโรง ตรงกับ พ.ศ. 2411 ที่ตำบลปลายคลองกระทุ่มแบน อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร เป็นบุตรชายคนที่ 2 ใน 3 คน ของนายพุ่ม นางจันทร์

            เมื่ออายุครบ ได้ทำการอุปสมบทที่วัดนางสาว ตำบลท่าไม้ อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร เมื่อลาอุปสมบทแล้ว ไปประกอบอาชีพทางตำบลบางตะบูน อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งต่อมาก็ได้ทำการสมรสกับนางม่วย พุ่มพวง และได้ถึงแก่มรณกรรมไปแต่ พ.ศ. 2468 มีบุตรร่วมกัน 9 คน ได้ถึงแก่กรรมไปแล้ว 2 คน ปัจจุบัน (ข้อมูล พ.ศ. 2499) มีชีวิตอยู่ 7 คนคือ

1. นายผิน พุ่มพวง

2. นายวัน พุ่มพวง

3.นายปิ่น ชุนสนิท

4. นางพรหรม พงษ์พานิช

5. นายขวัน พุ่มพวง

6. นางบุญล้อม พันธ์เวช

7. นายสมควร พุ่มพวง

            นายจี๊ด พุ่มพวง ได้ประกอบการทำมาหาเลี้ยงชีพด้วยความสุจริตเป็นหลักฐาน เพราะความขยันหมั่นเพียร เป็นผู้มีนิสัยโอบอ้อมอารี มีเมตตาจิต เป็นที่นับถือของบรรดาญาติมิตรและผู้คุ้นเคย เพราะว่าเป็นผู้มั่นอยู่ในศีลธรรม ยุติธรรมและความจริง เป็นผู้ไม่รู้จักคำว่าโกรธและคำหยาบ และเป็นผู้ที่พร้อมจะให้อภัยกับบุคคลซึ่งไม่เป็นมิตร เป็นผู้อบรมสั่งสอนลูกให้รู้จักต่อสู้ชีวิตและบำเพ็ญความดี เป็นที่พึ่งและเป็นที่รักนับถือของบุตรทุกคน นายจี๊ด พุ่มพวง ได้ทำหน้าที่ของพ่อได้อย่างดีที่สุด และเป็นพ่อที่ดี หาได้ยาก เมื่อยังมีชีวิตได้บำเพ็ญกิจทางศาสนาเป็นหลักฐาน เยี่ยงพุทธศาสนิกชนไว้เป็นอันมาก

            นายจี๊ด พุ่มพวง ได้ป่วยกะเสาะกะแสะโดยโรคชรามาตั้งแต่ พ.ศ. 2495 บรรดาลูก ๆ ได้พยายามประคับประคอง และรักษาโดยแพทย์ตลอดมาอย่างเต็มความสามารถ ได้ทุเลาเบาบางลงแล้วก็เป็นขึ้นอีกดังนี้เรื่อยมาจนถึงเดือนกันยายน 2498 อาการของโรคชราก็ได้กำเริบมากขึ้น ความต้านทานของร่างกายก็อ่อนแอลง บรรดาลูก ๆ ได้พยายามประคับประคองดูแลกันเรื่อยมา จนถึงวันที่ 1 ธันวาคม 2498 เวลา 12.55 น. ก็ถึงมรณกรรม ด้วยความรู้สึกที่ดีที่สุด และหมดลมด้วยความสงบ คำนวณอายุได้ 88 ปี

--
คัดลอกข้อมูลจากหนังสือเรื่อง "เลิกเพราะเห็นแก่ลูก"
โดย พระครูธรรมวิจักษณ์ (สำเภา ป.)
บุตรและธิดาพิมพ์อนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพ
คุณพ่อจี๊ด พุ่มพวง
ณ ฌาปนกิจศพสถานกองทัพบก (วัดโสมนัศวิหาร)
วันพฤหัสบดีที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2499


ท่านใดมีหนังสืออนุสรณ์คนกระทุ่มแบนหรือหนังสือเกี่ยวกับกระทุ่มแบน
สามารถติดต่อบริจาคได้ที่ เพจกระทุ่มแบนโฟโต้นะครับ



โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ชื่อ "กระทุ่มแบน" มาจากไหน

"บ้านน้องอยู่ที่ไหนนะ?" "กระทุ่มแบนครับ" "แล้ว กระทุ่มแบน เนี่ย ทำไมมันถึงชื่อนี้?" "อืม..ไม่แน่ใจ...ไม่ทราบเลยครับ" เชื่อได้ว่าคนกระทุ่มแบนหลายคนคงจะคุ้นเคยกับบทสนทนาประมาณข้างต้น ที่ตอบได้เพียงคำถามแรก แต่เมื่อถึงคำถามที่สอง เซลล์สมองอาจต้องวิ่งทำงานเหนื่อยกันเลยทีเดียว สุดท้ายบางคนตอบได้ บางคนเดาไป บางคนถามกลับว่า "อยากจะรู้ไปทำไม" สำหรับผมแล้ว... "กระทุ่มแบน...ทำไมมันถึงชื่อนี้" มันเป็นคำถามที่ค้างคาใจมาหลายปี จนกระทั่งวันที่พอจะมีกำลังและเวลา รวมถึงความพร้อมประกอบอื่นๆ ทำให้ได้ออกค้นหาคำตอบเสียที ภาพแผนที่ตัดเฉพาะส่วนจากกรมแผนที่ทหารบกสำรวจเมื่อ พ.ศ. 2456 ภาพจากหอจดหมายเหตุแห่งชาติ

กว่า ๙๐ ปี "ร้านกิมกี่" และเรื่องเล่าจากเจ้าของร้าน

ตลาดกระทุ่มแบนเป็นอีกหนึ่งชุมชนอันเป็นศูนย์กลางด้านการค้าที่สำคัญมาหลายร้อยปีในอำเภอกระทุ่มแบน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บ้านเรือนที่ตั้งอยู่ตามแนวคลองภาษีเจริญในบริเวณตลาด ใกล้กับจุดที่คลองกระทุ่มแบนตัดผ่านกับคลองภาษีเจริญ หรือคนเก่าๆ ในพื้นที่เรียกกันว่า “ตลาดสี่แยก” หรือ “ตลาดสี่กั๊ก” อันเป็นตลาดน้ำที่คนรุ่นเกิดก่อนปี พ.ศ. ๒๕๐๐ ได้บอกเล่ากันเป็นเสียงเดียวว่ามีความคึกคัก มีเรือแน่นเป็นร้อยลำทั้งเรือพ่อค้าแม่ค้า และเรือชาวบ้านที่มาจับจ่ายซื้อของในยามเช้า เรือนไม้ริมคลองบริเวณถนนเจริญสวัสดิ์นับตั้งแต่สามแยกโรงพิมพ์วิไลพาณิชย์ยาวเรื่อยไปจนถึงศาลหลวงตาทองก็จะเป็นห้องแถวไม้เก่าที่เป็นแถวแนวยาว บางส่วนมีการก่อสร้างขึ้นในยุค ๒๔๙๐ แต่บางส่วนก็มีการก่อสร้างมาก่อนหน้านั้น มีห้องแถวอยู่ช่วงหนึ่งฝั่งตลาดบริเวณเชิงสะพานแป๊ะกง หรือที่หลายคนเรียกกันอีกชื่อว่า “ตลาดบุญมี” ที่ยังคงสภาพความเป็นเรือนไม้เก่าที่ขนาบข้างด้วยอาคารคอนกรีตที่ปลุกขึ้นมาทดแทน ทำให้ผมได้มีโอกาสได้พอเห็นสภาพเดิมของห้องแถวรุ่นแรกๆ ของตลาดกระทุ่มแบนอยู่บ้าง แต่จะมีอยู่ร้านหนึ่งที่มีป้ายระบุอายุร้านชั...

เปิดตำนาน "ร้านถ่ายรูปแห่งแรกของกระทุ่มแบน"

หากค้นรูปถ่ายติดบัตรขาวดำเก่าๆ ยุค 2500 ที่บ้านของคนกระทุ่มแบนขึ้นมาดู ผมเชื่อว่ากว่า 80 เปอร์เซ็นต์ของรูปถ่ายเหล่านั้น บนมุมซ้ายหรือขวาด้านล่างของรู ปจะต้องมีตราประทับแบบนูนของร้ านถ่ายรูปแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นร้านที่นิยมและได้รั บความไว้วางใจจากชาวกระทุ่ มแบนมาอย่างยาวนาน นั่นคือ "ห้องภาพชูศิลป์ : ร้านถ่ายรูปแห่งแรกของกระทุ่ มแบน" หลังจากหาเวลานัดหมายกับห้องภาพชูศิลป์ ให้จังหวะลงตัวกับวันที่ ผมพอจะว่างจากทั้ งงานประจำและงานพิเศษในวันหยุ ดเสาร์-อาทิตย์เรียบร้อย ผมจึงได้มีโอกาสฟังเรื่องราวดีๆ จากทายาทผู้ก่อตั้ง "ห้องภาพชูศิลป์" ในวันเสาร์ที่ 28 กรกฎาคม 2562 คุณพวงเพ็ญ โภคฐิติยุกต์ หรือ "ป้าเช็ง" ลูกสาวคนโตของเจ้าของห้องภาพชูศิลป์ เกิดเมื่อ พ.ศ. 2492 ได้บอกเล่าให้ผมได้ฟังด้วยรอยยิ้ มอารมณ์ดีถึงประวัติห้องภาพชูศิลป์ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งในรุ่นของคุ ณพ่อและคุณแม่  คุณพ่อมีลูก 5 คน คือ คุณป้าเป็นคนโต มีน้องชาย 3 คน และน้องสาวคนเล็กอีกคน   คุณพวงเพ็ญ โภคฐิติยุกต์ หรือ "ป้าเช็ง" จุดเริ่มต้นของอาชีพถ่ายภาพ คุณแม่ป้าเช็งชื่อ ...