ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ประวัติ "ครูฮวด" หรือ "นายบุญนาค แสงลออ" ครูผู้ก่อตั้งโรงเรียนสุระวิทยาที่วัดดอนไก่ดี


          ประวัติของครูฮวดนี้ ผมพิมพ์ตามตัวอักษรต้นฉบับในหนังสือ "ไตรวุฒิ" เจริญ ๓ ประการ โดย ขุนพิสิฐนนทเดช (บุญมี มกรเสน) พิมพ์อุทิศสนองคุณ แด่ นายฮวด แสงลออ ผู้เป็นครู ในการฌาปนกิจที่วัดดอนไก่ดี อำเภอกระทุ่มแบน วันที่ ๒๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๙๓ ยกเว้นการจัดย่อหน้าที่ต่างจากต้นฉบับเพื่อให้อ่านได้สบายตาขึ้น




ประวัติโดยย่อ

นาย ฮวด แสงลออ (หรือที่เรียกกันทั่วๆ ไปว่า คุณครูฮวด) ชาตะ วันอาทิตย์ที่ ๑๗ เมษายน พ.ศ. ๒๔๒๙ ได้รับการศึกษาเล่าเรียนจากโรงเรียนนวลนรดิศ ในคลองบางหลวง อำเภอบางยี่เรือ จังหวัดธนบุรี สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนี้แล้ว จึงลาออกประกอบอาชีพส่วนตัว และได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ วัดดอนไก่ดี อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร

ในระหว่างที่ท่านอุปสมบทอยู่นั้น ได้มีจิตต์ศรัทธาตั้งโรงเรียนสอนหนังสือไทยขึ้นที่วัดดอนไก่ดี ด้วยความคิดอ่านและความพากเพียรของท่านเองจนบรรลุผลสำเร็จ และขนานนามโรงเรียนนี้ว่า "โรงเรียนสุระวิทยา" ท่านทำการสั่งสอนด้วยตนเอง มีศิษย์ที่รับการศึกษาเล่าเรียนเป็นจำนวนมาก ได้ทำการสอนอยู่ถึง ๔ พรรษาจึงลาสิกขาบท 

เมื่อเป็นฆราวาสแล้ว ท่านก็ยังเป็นครูสอนอยู่อีก ๑ ปี แล้วท่านออกทำการค้าขายส่วนตัวต่อไป ตลอดเวลาที่ท่านเป็นครูสอนอยู่นั้นมิได้คิดค่าเล่าเรียนจากนักเรียนแต่อย่างใดเลย เป็นการสอนด้วยความตั้งใจเป็นกุศลวิทยาทานโดยแท้ โรงเรียนแห่งนี้ยังปรากฏอยู่จนถึงปัจจุบันนี้ ศิษย์ของครูฮวด แสงลออ ขณะนี้รับราชการเป็นหลักฐานมีอยู่หลายคน และที่ทำมาหาเลี้ยงชีพในทางค้าขายเป็นคหบดีมีหลักฐานก็เป็นจำนวนมาก

คุณครูฮวด แสงลออ ได้ทำการสมรสกับนางกี่ แสงลออ มีบุตร ธิดา ๕ คน คือ
๑. นางพุฒ ชลานุเคราะห์
๒. นายทองสุข แสงลออ
๓. นายทองสด แสงลออ
๔. นายทองเสริฐ แสงลออ
๕. นางสาวเพี้ยน แสงลออ

ครูฮวด แสงลออ เป็นผู้มีจิตต์ศรัทธาเลื่อมใสในพุทธศาสนา มีการทำบุญให้ทานเสมอเป็นนิจ เป็นผู้มีอัธยาศัยโอบอ้อมอารีแก่ผู้น้อย เป็นที่รักใคร่นับถือของปวงมิตรสหายและเป็นที่รักเคารพของบรรดาศิษย์ ท่านไม่ถือตัวเข้าสังคมกับชนได้ทุกชั้น ก่อนถึงแก่กรรมเล็กน้อย ท่านได้ช่วยวิ่งเต้นในการฝังลูกนิมิตรที่วัดบางนกแขวก จังหวัดราชบุรี ยังมิทันสำเร็จผล ท่านก็ได้ล้มป่วยลง บรรดาญาติได้ทำการรักษาพยาบาลจนเต็มความสามารถ อาการของโรคกำเริบหนักขึ้น และถึงแก่กรรมที่บ้านปากคลองกระทุ่มแบน อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร เมื่อวันที่ ๑๐ มกราคม พ.ศ. ๒๔๙๑  คำนวณอายุได้ ๖๒ ปี

ท่านเป็นผู้ประกอบด้วยคุณงามความดี ได้ก่อกำเหนิดตั้งโรงเรียนขึ้นเป็นอนุสสรณ์ทุกวันนี้ และประพฤติตนเป็นประโยชน์แก่คนทั่วไป ไม่เป็นภัยแก่สังคมเช่นนี้ เมื่อท่านถึงแก่กรรมลง จึงเป็นที่เศร้าสลดและอาลัยของบรรดาญาติมิตร ท่านที่เคารพนับถือตลอดจนบรรดาศิษย์ของท่านทั่วไป.




 

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ชื่อ "กระทุ่มแบน" มาจากไหน

"บ้านน้องอยู่ที่ไหนนะ?" "กระทุ่มแบนครับ" "แล้ว กระทุ่มแบน เนี่ย ทำไมมันถึงชื่อนี้?" "อืม..ไม่แน่ใจ...ไม่ทราบเลยครับ" เชื่อได้ว่าคนกระทุ่มแบนหลายคนคงจะคุ้นเคยกับบทสนทนาประมาณข้างต้น ที่ตอบได้เพียงคำถามแรก แต่เมื่อถึงคำถามที่สอง เซลล์สมองอาจต้องวิ่งทำงานเหนื่อยกันเลยทีเดียว สุดท้ายบางคนตอบได้ บางคนเดาไป บางคนถามกลับว่า "อยากจะรู้ไปทำไม" สำหรับผมแล้ว... "กระทุ่มแบน...ทำไมมันถึงชื่อนี้" มันเป็นคำถามที่ค้างคาใจมาหลายปี จนกระทั่งวันที่พอจะมีกำลังและเวลา รวมถึงความพร้อมประกอบอื่นๆ ทำให้ได้ออกค้นหาคำตอบเสียที ภาพแผนที่ตัดเฉพาะส่วนจากกรมแผนที่ทหารบกสำรวจเมื่อ พ.ศ. 2456 ภาพจากหอจดหมายเหตุแห่งชาติ

กว่า ๙๐ ปี "ร้านกิมกี่" และเรื่องเล่าจากเจ้าของร้าน

ตลาดกระทุ่มแบนเป็นอีกหนึ่งชุมชนอันเป็นศูนย์กลางด้านการค้าที่สำคัญมาหลายร้อยปีในอำเภอกระทุ่มแบน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บ้านเรือนที่ตั้งอยู่ตามแนวคลองภาษีเจริญในบริเวณตลาด ใกล้กับจุดที่คลองกระทุ่มแบนตัดผ่านกับคลองภาษีเจริญ หรือคนเก่าๆ ในพื้นที่เรียกกันว่า “ตลาดสี่แยก” หรือ “ตลาดสี่กั๊ก” อันเป็นตลาดน้ำที่คนรุ่นเกิดก่อนปี พ.ศ. ๒๕๐๐ ได้บอกเล่ากันเป็นเสียงเดียวว่ามีความคึกคัก มีเรือแน่นเป็นร้อยลำทั้งเรือพ่อค้าแม่ค้า และเรือชาวบ้านที่มาจับจ่ายซื้อของในยามเช้า เรือนไม้ริมคลองบริเวณถนนเจริญสวัสดิ์นับตั้งแต่สามแยกโรงพิมพ์วิไลพาณิชย์ยาวเรื่อยไปจนถึงศาลหลวงตาทองก็จะเป็นห้องแถวไม้เก่าที่เป็นแถวแนวยาว บางส่วนมีการก่อสร้างขึ้นในยุค ๒๔๙๐ แต่บางส่วนก็มีการก่อสร้างมาก่อนหน้านั้น มีห้องแถวอยู่ช่วงหนึ่งฝั่งตลาดบริเวณเชิงสะพานแป๊ะกง หรือที่หลายคนเรียกกันอีกชื่อว่า “ตลาดบุญมี” ที่ยังคงสภาพความเป็นเรือนไม้เก่าที่ขนาบข้างด้วยอาคารคอนกรีตที่ปลุกขึ้นมาทดแทน ทำให้ผมได้มีโอกาสได้พอเห็นสภาพเดิมของห้องแถวรุ่นแรกๆ ของตลาดกระทุ่มแบนอยู่บ้าง แต่จะมีอยู่ร้านหนึ่งที่มีป้ายระบุอายุร้านชั...

สุสานสีบุญเรือง และ มูลนิธิสีบุญเรือง ริมคลองภาษีเจริญ กระทุ่มแบน

เมื่อหลายวันก่อน คุณอาไพบูลย์ สำราญภูติ คนกระทุ่มแบนผู้มีชื่อเสียงด้านการตลาด ที่ผมได้มีโอกาสรู้จักกันมาหลายปี ได้คอมเมนต์สอบถามถึงเรื่องประวัติของสุสานสีบุญเรืองมาในเฟซบุ๊กส่วนตัวของผม ประจวบกับความคิดดั้งเดิมที่เคยจะเขียนถึงเรื่องนี้อยู่เป็นทุนเดิมแล้ว แต่ข้อมูลอาจยังไม่ครบถ้วนในทุกด้าน ผมเลยได้แต่ผัดวันประกันพรุ่งออกไปก่อน แต่เมื่อลองไตร่ตรองให้ดีแล้วพบว่า ข้อมูลบางเรื่องไม่ต้องสมบูรณ์หมดจดก็ได้ ขอแค่เขียนออกมาให้ครบถ้วนถูกต้องเท่าทีมีก่อนเพราะถ้ามัวแต่รอก็ไม่ได้เขียนเสียที ที่สำคัญเมื่อเขียนเผยแพร่ออกมาแล้ว น่าจะมีผู้รู้หลายท่านมาช่วยกันเติมเต็มข้อมูลในยุคโซเชียลเน็ตเวิร์กแบบทุกวันนี้ก็เป็นได้  หากกล่าวถึง สุสานสีบุญเรือง ในความทรงจำของผม คือ ภาพป้ายสุสานที่ตั้งอยู่ริมคลองภาษีเจริญ ซึ่งผมมองเห็นอยู่หลายครั้ง เมื่อคราวใช้บริการเรือหางยาวจากกระทุ่มแบนไปหนองแขม หรือหนองแขมมากระทุ่มแบน แต่ด้วยความเป็นเด็กจึงไม่ได้สนใจอะไรมากนัก เพียงแต่ทราบว่ามีความเกี่ยวพันกับตระกูลสีบุญเรืองเป็นแน่แท้  คนกระทุ่มแบนจำนวนไม่น้อย น่าจะรู้จักสกุลสีบุญเรือง จากเมื่อครั้งทายาทตระกูลสีบุญเรือง ...