ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

วัดนางสาวมีโบสถ์ มหาอุด หรือ มหาอุตม์ เขียนแบบไหน?


โบสถ์มหาอุด วัดนางสาว
ถ่ายเมื่อ 1 ม.ค. 2562




คงเป็นเรื่องเหลือเชื่อถ้าบอกว่าเป็นคนกระทุ่มแบนแต่ไม่รู้จักวัดนางสาว เพราะเป็นวัดเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงในด้านการพัฒนา มีตำนานเรื่องเล่ามากมายหลากหลายเรื่อง รวมถึงโบสถ์อันศักดิ์สิทธิ์และพิเศษกว่าหลายๆ โบสถ์ของวัดในเมืองไทย ส่วนประวัติวัดนางสาว และเรื่องราวประกอบอื่นๆ ผมคงได้รวบรวมข้อมูล ประวัติต่างๆ เพื่อเขียนให้ได้อ่านกันในบทความถัดๆ ไป

ในตอนนี้ขอกล่าวถึงโบสถ์หรืออุโบสถที่วัดนางสาว อายุเก่าแก่กว่า 400 ปี ซึ่งเป็นอาคารก่ออิฐถือปูนขนาดเล็กรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า หลังคาเครื่องไม้มุงกระเบื้อง ด้านหน้ามีพาไลหรือพะไลยื่นออกมา 1 ห้อง (พาไลหรือพะไล แปลว่า เรือนหรือเพิงโถง ต่อจากเรือนเดิมหรืออยู่ในบริเวณของเรือนเดิม ใช้เป็นที่นั่งเล่นหรือประโยชน์อื่นๆ ซึ่งไม่ใช่ห้องนอน) มีเสาปูนสี่เหลี่ยมรองรับโครงหลังคาจำนวน 4 ต้น ช่อฟ้าใบระกาเป็นปูนปั้นประดับกระจก ผนังอุโบสถก่ออิฐถือปูน มีประตูเข้าออกด้านหน้าเพียงประตูเดียว ไม่มีหน้าต่าง ปัจจุบันได้รับการซ่อมแซมใหม่โดยปูหินอ่อนภายใน มีลายจิตรกรรมฝาผนัง ด้านผนังนอกมีการปรับเปลี่ยนเป็นกระเบื้องดินเผาที่มีภาพเล่าเรื่องพระมหาชนก

โบสถ์ลักษณะที่กล่าวข้างต้น นิยมเรียกว่า "โบสถ์มหาอุด"  ซึ่งหลงเหลือเพียงไม่กี่แห่งในประเทศไทย

"โบสถ์มหาอุด" สะกดด้วย ตรงตัว ไม่ใช่ "มหาอุตม์" อย่างที่หลายท่านเข้าใจกันอยู่ เดิมทีผู้เขียนก็เข้าใจว่าสะกดด้วย ตม์ แต่เมื่อค้นหาข้อมูลต่างๆ และทราบแบบที่ถูกแล้ว จึงคิดว่าควรเขียนให้ถูกต้องและนำมาเผยแพร่ให้ได้ทราบกัน

ทั้งนี้มีการอธิบายไว้ในรายการวิทยุ ชื่อรายการ “รู้ รัก ภาษาไทย”  ออกอากาศทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ ๘ พฤษภาคม  พ.ศ. ๒๕๕๑ เวลา ๗.๐๐-๗.๓๐ น. โดยมีการเผยแพร่ไว้ในเว็บไซต์ของสำนักงานราชบัณฑิตยสภา ดังนี้


อุด-มหาอุด

คำว่า อุด หมายถึง จุกช่อง หรือ ปิดให้แน่น. คำนี้อาจประกอบกับคำว่า มหา ซึ่งหมายถึง ใหญ่ ยิ่งใหญ่. ได้คำว่า มหาอุด แปลว่า อุดอย่างยิ่งใหญ่

          มหาอุด มี หลายความหมาย ความหมายหนึ่ง คือลักษณะเฉพาะของโบสถ์หรือวิหารขนาดย่อมที่ก่อเป็นผนังทึบ ไม่มีหน้าต่าง และเจาะช่องประตูด้านหน้าเป็นทางเข้าออกเพียงด้านเดียว นิยมสร้างในสมัยอยุธยา เพื่อประสงค์ให้พระสงฆ์ทำสังฆกรรมอย่างมีสมาธิ หรือให้เกิดความขลังในการประกอบพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์โดยเฉพาะพิธีปลุกเสกพระเครื่องหรือวัตถุมงคล เช่น อุโบสถวัดตึก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา. อีกความหมายหนึ่ง คือ พระเครื่องที่ทำเป็นพระปิดตาหรือปิดทวารอื่น ๆ เรียกว่า พระมหาอุด เชื่อว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ทางทางป้องกันอาวุธและทางเมตตามหานิยม. นอกจากนี้ มหาอุด ยังหมายถึง เครื่องรางของขลังหรือคาถาที่บริกรรมปลุกเสก เชื่อว่าช่วยให้อยู่ยงคงกระพัน.

นอกจากนี้ พจนานุกรมแบบออนไลน์ แปลไทย-ไทย ฉบับราชบัณฑิตยสถาน ได้ให้ความหมายไว้ดังนี้

มหาอุด หมายถึง น. เครื่องรางของขลังที่ช่วยให้ผู้เป็นเจ้าของอยู่ยงคงกระพัน

โบสถ์หรือวิหารที่มีผนังทึบตันรอบด้านมีช่องทางเข้าออกเฉพาะประตูด้านหน้าแห่งเดียวเพื่อประโยชน์ในการทำพิธีที่เชื่อว่าจะทำให้ขลังยิ่งขึ้น.


โบสถ์มหาอุด วัดนางสาว เมื่อปี พ.ศ. 2537
ภาพจากหนังสือพิมพ์สื่อมวลชนท่องเที่ยว ประจำเดือนมกราคม พ.ศ. 2537

โบสถ์มหาอุด วัดนางสาว กระทุ่มแบน ถ่ายเมื่อ 24 พ.ค. 2551
ปัจจุบันผนังโบสถ์ด้านนอกได้ปรับเปลี่ยนเป็นกระเบื้องเผานูนสูงเรื่องพระมหาชนก


ส่วนในทางไสยศาสตร์แล้ว มีการกล่าวถึงเรื่อง มหาอุด และ มหาอุตม์ ไว้ในคอลัมน์หนังสือพิมพ์คมชัดลึก (ต้นทางไม่ได้ระบุฉบับและวันที่) ซึ่งขอคัดลอกมาบางส่วนที่เกี่ยวข้อง ดังนี้

"...วิชามหาอุตม์ เป็นศาสตร์วิชาที่ให้คุณวิเศษทางความอุดมสมบูรณ์ ทำมาหากินคล่อง มีกินไม่มีหมดผู้ใช้ต้องหมั่นสวดภาวนา วิชามหาอุตม์เป็นอักขระพระคาถามหายันต์ที่นำไปลงวัตถุมงคลต่างๆหรือปลุกเสกสิ่งของนำมาบูชา จนกระทั่งนำอักขระมหายันต์มาสักยันต์ลงบนร่างกาย แต่ถ้าจะให้เกิดคุณโดยเร็ว ต้องหมั่นภาวนาพระคาถากำกับไว้ ถือว่าเป็นมนต์มหาเสน่ห์ มหานิยมเมตตาเป็นเลิศ เช่นนกถึดทือ เจ้ามือวิ่งหนี หรือ นกถึดทือ กระพือเรียกลาภ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขาม

....ศาสตร์วิชามหาอุตม์นี้ หลายท่านคิดว่าเป็นมหาอุด ที่หมายถึง อุดลูกปืน อุดสิ่งชั่วร้ายไม่ให้เข้าตัวอะไรประมาณนี้ซึ่งความจริงแล้ว วิชาที่อุดลูกปืนหรือป้องกันสิ่งชั่วร้ายนั้น อยู่ในหมวดวิชาอยู่ยงคงกระพัน วิชานี้ป้องกันอาวุธต่างๆ ได้ ป้องกันสิ่งเลวร้ายได้ อย่างเช่น ผู้ที่มีวิชาอยู่ยงคงกระพันถูกยิงด้วยปืน ถึงแม้ลูกปืนจะยิงออกและถูกเข้าตามร่างกาย แต่ก็ไม่สามารถทะลุผ่านผิวหนังเข้าไปได้ อย่างนี้เป็นต้น..."

สรุปได้ง่ายๆ ว่า เราต้องเขียนอย่างถูกต้องโดยยึดตามราชบัณฑิตยสภาว่า "วัดนางสาวมีโบสถ์มหาอุด" ไม่ใช่ "วัดนางสาวมีโบสถ์มหาอุตม์"



------------
เอกสารและแหล่งอ้างอิง
  • คณะกรรมการดำเนินโครงการจัดทำหนังสือ จ.สมุทรสาคร.  (2541).  วัฒนธรรม พัฒนาการทางประวัติศาสตร์ เอกลักษณ์และภูมิปัญญา จังหวัดสมุทรสาคร.  หน้า 111
  • บทวิทยุรายการ “รู้ รัก ภาษาไทย”  ออกอากาศทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ ๘ พฤษภาคม  พ.ศ. ๒๕๕๑ เวลา ๗.๐๐-๗.๓๐ น. สืบค้นจาก สำนักงานราชบัณฑิตยสภา http://www.royin.go.th/?knowledges=อุด-มหาอุด-๘-พฤษภาคม-๒๕๕๑ [1 เม.ย. 2562]
  • พจนานุกรมแบบออนไลน์ แปลไทย-ไทย ฉบับราชบัณฑิตยสถาน สืบค้นจากจาก https://dictionary.sanook.com/search/dict-th-th-royal-institute/มหาอุด [1 เม.ย. 2562]
  • ไสยศาสตร์...เคล็ดวิชามหาอุตม์อยู่ยงคงกระพัน. หนังสือพิมพ์คม ชัด ลึก (ไม่ทราบฉบับและวันที่) สืบค้นจาก http://www.arjanram.com/relic_detail.php?g=4&id=82 [1 เม.ย. 2562]

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ชื่อ "กระทุ่มแบน" มาจากไหน

"บ้านน้องอยู่ที่ไหนนะ?" "กระทุ่มแบนครับ" "แล้ว กระทุ่มแบน เนี่ย ทำไมมันถึงชื่อนี้?" "อืม..ไม่แน่ใจ...ไม่ทราบเลยครับ" เชื่อได้ว่าคนกระทุ่มแบนหลายคนคงจะคุ้นเคยกับบทสนทนาประมาณข้างต้น ที่ตอบได้เพียงคำถามแรก แต่เมื่อถึงคำถามที่สอง เซลล์สมองอาจต้องวิ่งทำงานเหนื่อยกันเลยทีเดียว สุดท้ายบางคนตอบได้ บางคนเดาไป บางคนถามกลับว่า "อยากจะรู้ไปทำไม" สำหรับผมแล้ว... "กระทุ่มแบน...ทำไมมันถึงชื่อนี้" มันเป็นคำถามที่ค้างคาใจมาหลายปี จนกระทั่งวันที่พอจะมีกำลังและเวลา รวมถึงความพร้อมประกอบอื่นๆ ทำให้ได้ออกค้นหาคำตอบเสียที ภาพแผนที่ตัดเฉพาะส่วนจากกรมแผนที่ทหารบกสำรวจเมื่อ พ.ศ. 2456 ภาพจากหอจดหมายเหตุแห่งชาติ

กว่า ๙๐ ปี "ร้านกิมกี่" และเรื่องเล่าจากเจ้าของร้าน

ตลาดกระทุ่มแบนเป็นอีกหนึ่งชุมชนอันเป็นศูนย์กลางด้านการค้าที่สำคัญมาหลายร้อยปีในอำเภอกระทุ่มแบน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บ้านเรือนที่ตั้งอยู่ตามแนวคลองภาษีเจริญในบริเวณตลาด ใกล้กับจุดที่คลองกระทุ่มแบนตัดผ่านกับคลองภาษีเจริญ หรือคนเก่าๆ ในพื้นที่เรียกกันว่า “ตลาดสี่แยก” หรือ “ตลาดสี่กั๊ก” อันเป็นตลาดน้ำที่คนรุ่นเกิดก่อนปี พ.ศ. ๒๕๐๐ ได้บอกเล่ากันเป็นเสียงเดียวว่ามีความคึกคัก มีเรือแน่นเป็นร้อยลำทั้งเรือพ่อค้าแม่ค้า และเรือชาวบ้านที่มาจับจ่ายซื้อของในยามเช้า เรือนไม้ริมคลองบริเวณถนนเจริญสวัสดิ์นับตั้งแต่สามแยกโรงพิมพ์วิไลพาณิชย์ยาวเรื่อยไปจนถึงศาลหลวงตาทองก็จะเป็นห้องแถวไม้เก่าที่เป็นแถวแนวยาว บางส่วนมีการก่อสร้างขึ้นในยุค ๒๔๙๐ แต่บางส่วนก็มีการก่อสร้างมาก่อนหน้านั้น มีห้องแถวอยู่ช่วงหนึ่งฝั่งตลาดบริเวณเชิงสะพานแป๊ะกง หรือที่หลายคนเรียกกันอีกชื่อว่า “ตลาดบุญมี” ที่ยังคงสภาพความเป็นเรือนไม้เก่าที่ขนาบข้างด้วยอาคารคอนกรีตที่ปลุกขึ้นมาทดแทน ทำให้ผมได้มีโอกาสได้พอเห็นสภาพเดิมของห้องแถวรุ่นแรกๆ ของตลาดกระทุ่มแบนอยู่บ้าง แต่จะมีอยู่ร้านหนึ่งที่มีป้ายระบุอายุร้านชั...

เปิดตำนาน "ร้านถ่ายรูปแห่งแรกของกระทุ่มแบน"

หากค้นรูปถ่ายติดบัตรขาวดำเก่าๆ ยุค 2500 ที่บ้านของคนกระทุ่มแบนขึ้นมาดู ผมเชื่อว่ากว่า 80 เปอร์เซ็นต์ของรูปถ่ายเหล่านั้น บนมุมซ้ายหรือขวาด้านล่างของรู ปจะต้องมีตราประทับแบบนูนของร้ านถ่ายรูปแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นร้านที่นิยมและได้รั บความไว้วางใจจากชาวกระทุ่ มแบนมาอย่างยาวนาน นั่นคือ "ห้องภาพชูศิลป์ : ร้านถ่ายรูปแห่งแรกของกระทุ่ มแบน" หลังจากหาเวลานัดหมายกับห้องภาพชูศิลป์ ให้จังหวะลงตัวกับวันที่ ผมพอจะว่างจากทั้ งงานประจำและงานพิเศษในวันหยุ ดเสาร์-อาทิตย์เรียบร้อย ผมจึงได้มีโอกาสฟังเรื่องราวดีๆ จากทายาทผู้ก่อตั้ง "ห้องภาพชูศิลป์" ในวันเสาร์ที่ 28 กรกฎาคม 2562 คุณพวงเพ็ญ โภคฐิติยุกต์ หรือ "ป้าเช็ง" ลูกสาวคนโตของเจ้าของห้องภาพชูศิลป์ เกิดเมื่อ พ.ศ. 2492 ได้บอกเล่าให้ผมได้ฟังด้วยรอยยิ้ มอารมณ์ดีถึงประวัติห้องภาพชูศิลป์ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งในรุ่นของคุ ณพ่อและคุณแม่  คุณพ่อมีลูก 5 คน คือ คุณป้าเป็นคนโต มีน้องชาย 3 คน และน้องสาวคนเล็กอีกคน   คุณพวงเพ็ญ โภคฐิติยุกต์ หรือ "ป้าเช็ง" จุดเริ่มต้นของอาชีพถ่ายภาพ คุณแม่ป้าเช็งชื่อ ...